@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 4/5 วันที่ 13 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 4/5 วันที่ 13 ก.ค. 57

โอ้เอ้ถอนใจ “ดีนะเนี่ย ที่งานนี้ไม่ค่อยมีคนทำ ไม่งั้นผมโดนไล่ออกแน่ๆ”
“เป็นลุงออกเองไปนานแล้ว ไม่ทู่ซี้อยู่รอให้เค้าไล่หรอก”
“อ้าวลุง แทงหลานซะแล้ว”
ทุกคนยิ้มๆกับลุงทวีและโอเอ้

“คุณอยุทธ์คะ ถ้าไม่ละลาบละล้วงจนเกินไป ฉันขอถามเรื่องส่วนตัวคุณซักเล็กน้อยได้มั้ยคะ”
“คุณเจอยากรู้เรื่องอะไรล่ะครับ”

เจติยา เดินคุยกับอยุทธ์อยู่ที่สวนหย่อมของบริษัท
“ผมกับเรนี่เพิ่งเป็นแฟนกันได้ไม่นาน แต่ก่อนหน้านั้น เรารู้จักกันมานานพอสมควรแล้วล่ะครับ”


เจติยาผายมือเชิญให้อยุทธ์นั่งลงที่ม้าสนาม ทั้งคู่นั่งคุยกันต่อ ใบหน้าของอยุทธ์มีรอยยิ้มบางๆเมื่อนึกถึงแฟนตัวเอง “เรนี่เค้าเป็นนักไวโอลิน ส่วนผมเป็นจิตรกร ชีวิตเรามีอะไรคล้ายกันหลายอย่าง ก็เลยสนิทกันเร็วน่ะครับ”
“ได้ยินมาว่า คุณกับคุณเรนี่เดินทางไปทำงานรอบโลกเลยเหรอคะ”
“ครับ วงออเคสตร้าของเรนี่เค้าเปิดการแสดงไปทั่ว เรนี่เค้าก็เลยต้องเดินทางบ่อย ส่วนผมชอบท่องเที่ยวอยู่แล้ว เราก็เลยไปด้วยกัน ปกติผมจะขายรูปวาดหรือไม่ก็ภาพถ่ายที่เป็นงานศิลป์ แต่ในบางประเทศ งานพวกนี้มันขายยาก ผมก็เลยต้องรับทำงานอื่นไปด้วย”
“แล้วทำไมคุณถึงมาเมืองไทยล่ะคะ”
“พ่อของเรนี่ป่วยหนักน่ะครับ เรนี่ก็เลยมาเยี่ยม แต่พอมาถึงพวกญาติๆดันส่งตัวมารักษาที่กรุงเทพซะแล้ว เราก็เลยมาเก้อ”
“แสดงว่าคุณไม่ได้มาหาคุณวนันต์เหรอคะ”
อยุทธ์ถอนใจหนักๆ “ผมไม่รู้ด้วยซ้ำครับ ว่าพ่อกลับมาอยู่เมืองไทย” ชายหนุ่มดูซึมๆ ไป “พ่อโกรธผมมาก ที่ผมเลือกจะเป็นจิตรกร ไม่ยอมรับช่วงกิจการต่อจากพ่อ นี่ผมไม่ได้เจอกับพ่อมาหลายปีแล้วล่ะครับ...”

อยุทธ์นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน
อยุทธ์ก้มลงกราบเท้าวนันต์ แต่วนันต์ซึ่งกำลังโกรธมาก ชักเท้าหลบไม่ยอมให้ลูกกราบ โดยมีพิมพ์อรยืนอยู่ใกล้ๆ ตอนนั้นวนันต์ยังไม่ป่วย ยังไม่ได้นั่งรถเข็น
“ถ้าแกอยากเป็นศิลปินไส้แห้งนัก ก็ออกไปจากบ้านฉันเลย ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
“ผมขอโทษครับคุณพ่อ แต่ผมอยากทำในสิ่งที่ผมรักจริงๆ”
อยุทธ์ลุกขึ้น สะพายเป้จะออกจากห้อง
พิมพ์อรทนไม่ไหวร้องห้ามด้วยความรู้สึกทั้งโกรธทั้งเสียใจ “ไปไม่ได้นะอยุทธ์ คุณพ่ออุตส่าห์ลำบากสร้างบริษัทขึ้นมาก็เพื่อเราสองคน แล้วเราจะทิ้งพ่อกับพี่ไปง่ายๆอย่างงี้น่ะเหรอ”
อยุทธ์ขบกรามแน่น แต่ก็สะพายเป้เดินออกจากห้องไป โดยไม่หันกลับมา พิมพ์อรมองตามด้วยสายตาแข็งกร้าว โกรธเคืองน้องสุดๆที่น้องทำแบบนี้

เจติยากำลังเดินคุยมากับอยุทธ์กลับเข้ามาที่โถงบริษัท
“หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้ข่าวมาว่าพ่อล้มป่วย ผมพยายามจะติดต่อหาพ่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีใครตอบผมกลับมาเลย พ่อคงไม่อยากเห็นหน้าผมอีกแล้วล่ะครับ”
เจติยาเริ่มแปลกใจพูดพึมพำ “แปลก...”
“แปลกยังไงครับ”
“เพราะเท่าที่ฉันเคยเจอคุณพ่อคุณ ฉันว่า...” เจติยาพูดไม่ทันจบ ก็เห็นลาภิณเดินคุยกับพิมพ์อร ผ่านมาที่โถงพอดี
อยุทธ์เหลือบเห็นพี่นึกไม่ถึง “พี่อร”
พิมพ์อรเห็นหน้าอยุทธ์ก็ตกใจมาก “อยุทธ์ เธอมาอยู่นี่ได้ยังไง”
ลาภิณงงๆ มองทั้งคู่สลับกันไปมา “นี่รู้จักกันด้วยเหรอครับ”
“พอดีวันนี้คุณอยุทธ์มาสมัครเป็นพนักงานแต่งศพ เจก็เลยรับเข้าทำงานน่ะค่ะคุณต้น”
พิมพ์อรหันไปจิกตามองเจติยาด้วยความโกรธเคืองทันที ไม่พอใจที่เจติยารับอยุทธ์เข้าทำงาน ทำให้ตนต้องมาเจอกับอยุทธ์อีก
ลาภิณยิ้มรับยื่นมือเช็คแฮนด์กล่าวแนะนำตัว “ผมลาภิณครับ เป็นเจ้าของที่นี่แล้วก็เป็นสามีของเจเค้า ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“เช่นกันครับ” อยุทธ์เช็คแฮนด์กับลาภิณก่อนที่จะหันไปพูดกับพิมพ์อร หน้าขรึมลงด้วยความเป็นห่วงพ่อ “พี่อร คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง”
พิมพ์อรใบหน้าบึ้งตึง ไม่มองไม่ใส่ใจ ตัดบทเปลี่ยนเรื่องให้รู้เลยว่าไม่ชอบ “น้องต้นคะ พี่ขอตัวไปดูไซด์งานต่อนะคะ” พิมพ์อรสะบัดหน้าพรืดเดินเลี่ยงไปทันที
อยุทธ์ถอนใจยาวออกมามองตามพี่สาวไป ในขณะที่ลาภิณ เจติยาหันไปมองหน้ากันด้วยความกระอักกระอ่วน

เจติยากำลังเดินกลับไปห้องแต่งศพ ทันใดนั้นเอง พิมพ์อรก็เข้ามาขวางหน้าไว้
เจติยามองพิมพ์อรด้วยความแปลกใจ “มีอะไรเหรอคะ”
พิมพ์อรโมโห “ทำไมคุณต้องรับน้องชายฉันมาทำงานที่นี่ด้วย”
เจติยางงๆ “แล้วมันแปลกตรงไหนเหรอคะ”
“ไม่แปลกหรอกค่ะ แต่ฉันต้องมาตรวจงานสร้างตึกที่นี่บ่อยๆแล้วฉันก็ไม่สบายใจที่ต้องเห็นเค้าอยู่ที่นี่”
“แค่คุณอยุทธ์ไม่ชอบทำกิจการของครอบครัว คุณต้องโกรธกันถึงขนาดไม่อยากเห็นหน้าเลยเหรอคะ”
“นี่เค้าเล่าให้คุณฟังด้วยเหรอะ”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญถึงขนาดต้องปิดเป็นความลับนี่คะ พูดตามตรงนะคะ ฉันว่าที่พ่อกับลูกไม่เจอหน้ากันหลายปีเพราะสาเหตุเพียงแค่นี้ มันเกินไปหน่อยนะคะ”
“คุณไม่รู้อะไร อย่าพูดมากดีกว่า”
“ขอโทษค่ะ ฉันคงพูดมากเกินไป งั้นขอตัวก่อนนะคะ” เจติยาเดินเลี่ยงไป โดยไม่แยแสพิมพ์อรแม้แต่น้อย
พิมพ์อรมองตามเจติยาไปด้วยความโกรธเกลียดชัง “สั่งสอนแม่นี่ เดี๋ยวนี้เลย”
ขาดคำ ก็มีเงาดำรูปคนทะยานตามเจติยาไปอย่างรวดเร็ว

เจติยากำลังเดินมาตามทาง จู่ๆ รูปปั้นก็มีการสั่นไหว เหมือนกับพร้อมจะหล่นลงมาได้ทุกเวลา เจติยาเดินผ่านรูปปั้น รูปปั้นทำท่าเอียงจะหล่นลงมาทับเจติยา
แต่ทันใดนั้น กลับเป็นกระจกหน้าต่างที่อยู่ใกล้ๆเจติยา แตกออก เศษกระจกพุ่งเข้าใส่เจติยาทันที!!! เจติยาตกใจสุดๆ
จังหวะนั้นเอง ลาภิณก็พุ่งเข้ามารวบตัวเจติยาล้มลง หลบเศษกระจกได้หวุดหวิด แต่พอเจติยาเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นตามตัวของลาภิณ ถูกกระจกทิ่มแทงแทนตัวเองจนเลือดแดงฉาน เจติยาร้องด้วยความตกใจด้วยความเป็นห่วงลาภิณมาก “คุณต้น”
พิมพ์อรตกใจมากไม่แพ้กัน ไม่คิดว่าลาภิณจะมารับเคราะห์แทน
ที่ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล เจติยากดปุ่มให้เตียงที่ลาภิณนอน ปรับเอนลงไป โดยพิมพ์อรกำลังรินน้ำใส่แก้วเพื่อให้ลาภิณทานยา
“โชคดีนะคะ ถึงจะโดนหลายแผล แต่แผลไม่ลึกเท่าไหร่ น้องต้นไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นแผลเป็นหรอกนะคะ”
“ผมไม่กลัวเป็นแผลเป็นหรอกครับ กลัวภรรยาเจ็บมากกว่า” ลาภิณหันไปส่งสายตากรุ้มกริ่มให้เจติยา เจติยาทำเหยียดปากหมั่นไส้สามี พิมพ์อรปั้นยิ้มบางๆ แต่ในใจหมั่นไส้ปนอิจฉาสุดๆ
เจติยายังติดใจสงสัย “แต่ก็แปลกนะคะ อยู่ๆดีกระจกแตกได้ยังไง”
พิมพ์อรส่งยากับแก้วน้ำให้ลาภิณทานยา พอได้ยินเจติยาพูดอย่างนี้ ก็ไม่สบายใจ ร้อนตัวขึ้นมาทันที “พี่ว่าคงเป็นเศษหินจากบริเวณที่สร้างตึก กระเด็นมาโดนนั่นล่ะ เดี๋ยวพี่ต้องกำชับคนงานให้ทำงานกันระมัดระวังมากกว่านี้”
เจติยามองพิมพ์อรด้วยท่าทีระแวง ท่าทางพิมพ์อรเหมือนกำลังปิดบังอะไรอยู่ ได้แต่รับคำเพราะไม่มีหลักฐานอะไร “ค่ะ”
“ผมไม่เป็นอะไรมากแล้ว พี่อรไปทำงานต่อเถอะครับ” ลาภิณเลื่อนมือไปจับกุมมือเจติยาเอาไว้ ”ผมมีพยาบาลส่วนตัวประกบอยู่แบบนี้ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้วล่ะครับ” ชายหนุ่มหันไปมองตาเจติยายิ้มอ้อนๆ
พิมพ์อรหน้าเจื่อนไปเล็กน้อยที่โดนไล่ “งั้นน้องต้นพักผ่อนมากๆ แล้วกันนะคะ จะได้หายไวๆ”
“ขอบคุณครับพี่อร”
เจติยายกมือไหว้พิมพ์อร พิมพ์อรรับไหว้แล้วเดินออกไป
“ทานยาก่อนค่ะ”
ลาภิณทำเสียงอ้อน เสียงเล็กเสียงน้อย “ป้อนด้วยสิ สามีไม่มีแรง”
เจติยาหมั่นไส้หยิกพุงลาภิณ ก่อนจะประคองกันขึ้นมาป้อนน้ำป้อนยาเอาใจกันหนุงหนิง
พิมพ์อรที่กำลังจะเดินออกจากห้อง หันกลับมามอง รู้สึกเสียดแทงใจ หมั่นไส้ไม่อยากมองจนต้องรีบออกจากห้องไปด้วยสีหน้าหน้าบึ้งตึง
ณ ที่จอดรถของโรงพยาบาล พิมพ์อรเดินหน้าเซ็งกลับมาที่รถของตน โดยมีชาครรออยู่ ชาครเห็นพิมพ์อรมา ก็รีบเปิดประตูให้ทันที แต่พิมพ์อรยังไม่ทันเข้ารถไปนั่ง อยุทธ์ก็เข้ามาจับแขนพิมพ์อรรั้งไว้ก่อน
“เดี๋ยวพี่อร”
ชาครห่วงพิมพ์อร “ปล่อยคุณอรเดี๋ยวนี้นะครับ คุณอยุทธ์”
อยุทธ์โมโห ตะคอกสวน “แกคิดว่าฉันจะทำร้ายพี่สาวตัวเองรึไง”
“ไม่เป็นไรหรอกชาคร” พิมพ์อรหันไปพูดกับอยุทธ์ “ตามพี่มาถึงนี่ มีอะไร”
“ผมอยากพบคุณพ่อ พี่ช่วยผมหน่อยได้มั้ย”
“สายไปแล้วอยุทธ์ คุณพ่อไม่ต้องการพบเธอ”
“ผมต้องการมีชีวิตของตัวเองแค่นี้ ถึงกับต้องตัดพ่อตัดลูก ตัดพี่ตัดน้องกันเลยเหรอพี่อร”
พิมพ์อรโมโห “แค่นี้ เธอพูดได้ยังไงว่าแค่นี้ รู้บ้างมั้ย ว่าตั้งแต่ที่เธอออกจากบ้านไป มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
อยุทธ์หน้าเสีย ชะงักไปถามพิมพ์อรเสียงอ่อยๆ “มีอะไรเกิดขึ้นเหรอครับ”
พิมพ์อรขบกรามแน่น พยายามระงับอารมณ์ “เธอรู้ไปก็เท่านั้นแหละ ยังไงมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว” พิมพ์อรมองหน้าอยุทธ์ “พี่ยังเห็นเธอเป็นน้องอยู่เหมือนเดิม” หญิงสาวแสร้งทำเป็นถอนใจออกมาอย่างหนักใจ “แต่ในเมื่อคุณพ่อไม่ต้องการพบเธออีก เธอก็อย่าขัดใจท่านเลย ถ้าเดือดร้อนอะไรก็บอกชาคร พี่จะโอนเงินไปให้”

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 4/5 วันที่ 13 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ